09
May
กรุงเทพฯ 3 พฤษภาคม - นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวในงาน "10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10" ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของพรรคเพื่อไทยว่าการตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อ 10 เดือนที่แล้วเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพื่อรับมือกับปัญหาที่คั่งค้างจากการรัฐประหารและระบบราชการที่เฉื่อยชา "เราเห็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้สินที่สูงขึ้น ภัยคุกคามทางความมั่นคง และเศรษฐกิจใต้ดินที่พุ่งสูง เหล่านี้ทำให้ประชาชนอ่อนแอและขาดโอกาส" นางสาวแพทองธารกล่าว และเสริมว่า "เราจำเป็นต้องทำให้รัฐบาลมีบทบาทมากขึ้นในการนำพาเศรษฐกิจและสังคมไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้" นางสาวแพทองธารยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงกฎหมายที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีอิสระจากรัฐบาลว่าเป็นอุปสรรคหลักที่ทำให้นโยบายการคลังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ เธอกล่าวว่า "นโยบายการเงินที่ไม่สอดคล้องกันทำให้ประเทศต้องเผชิญกับหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นทุกปี นี่คือเหตุผลที่เราต้องหาทางลดเพดานหนี้และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ" ในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม พรรคเพื่อไทยมีแผนการดำเนินการที่ครอบคลุมหลายมิติ ตั้งแต่การปรับปรุงระบบบริหารจัดการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การรังสรรค์นโยบายเศรษฐกิจที่เน้นการกระจายรายได้และเสริมสร้างศักยภาพในท้องถิ่น ไปจนถึงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ "เราตั้งใจจะนำเสนอนโยบายใหม่ที่จะทำให้ไทยกลับมาเป็นฮับหลักทางการบินและการเงินของอาเซียน นอกจากนี้ยังมีแผนใหญ่ในการปรับปรุงกฎหมายล้าสมัยและสร้างกฎหมายใหม่ที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง" นางสาวแพทองธารกล่าวเพิ่มเติม การกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการบริหารงานของรัฐก็เป็นหนึ่งในจุดเน้นของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตที่สดใส ตามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเน้นย้ำ "การสร้างพันธมิตรทางการเมืองและการต่างประเทศที่มีคุณภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาไทยผ่านความท้าทายที่ต้องเผชิญในทุกด้าน และเรามั่นใจว่าด้วยการร่วมมือกันของทุกฝ่าย ประเทศไทยจะสามารถฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน." ในท้ายที่สุด พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายให้บรรลุผลการดำเนินงานเต็มร้อยก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขามีความสามารถและพร้อมที่จะนำพาประเทศก้าวหน้าไปด้วยนโยบายที่มั่นคงและการบริหารที่เห็นผลจริง