การเมืองไทยหลังเลือกตั้งปี 2566 ยังคงร้อนระอุ การจัดทัพ “ยื้อดุล” ของขั้วอำนาจเก่าอย่างพรรคเพื่อไทย กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา บทวิเคราะห์นี้ จะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังกลยุทธ์ “บริหารประเทศ-บริหารคนการเมือง” แบบ “แพ็กคู่” พร้อมอัปเดตเนื้อหาให้น่าสนใจและทันสมัย
สูตรสำเร็จ “ขายพ่วง 2 ลุง
นึกย้อนไปยุครัฐบาลท็อปบูต สูตร “ขายพ่วง 2 ลุง” ที่นำเสนอ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในบทบาทบริหารประเทศ ควบคู่ไปกับ “พลเอกอนุพงษ์ เผือกพิพัฒน์” ดูแลกลาโหม ประสบความสำเร็จอยู่หลายปี แม้จะสะดุดในโค้งสุดท้ายก็ตาม
เพื่อไทยเวอร์ชั่น 2.0
พรรคเพื่อไทยเองก็มีสูตรสำเร็จในแบบฉบับ “เพื่อไทยเวอร์ชั่น 2.0” โดยมี “นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน” รับบทบริหารประเทศ ส่วน “อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร” ทำหน้าที่มหากุนซือคอยหนุนหลัง แบ่งโหมดการทำงานชัดเจน
เกมเก้าอี้ดนตรีใน ครม.
สัญญาณที่ชัดเจนคือ การปรับ ครม. ล่าสุด บ่งบอกถึงอิทธิพลของ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ที่ต่อรองตำแหน่งสำคัญอย่างกระทรวงกลาโหม สะท้อนถึงการดึงดุลอำนาจภายในพรรค
จุดโฟกัส: คลังและกลาโหม
กระทรวงการคลังและกลาโหม กลายเป็นจุดโฟกัสสำคัญ โดยเฉพาะ “ทักษิณ” มองว่าถึงเวลาต้อง “ดึงดุล” แม้จะถูกมองว่าได้เปรียบ แต่สไตล์การเป็นซีอีโอนักเจรจา ยากที่จะเปลี่ยนแปลง
ดีลลับ “คืนบ้านคืนเมือง”
ข้อตกลงลับ “คืนบ้านคืนเมือง” กับขั้วอำนาจเก่า กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตามอง เพื่อไทยยอมปล่อยมือให้ “ขั้วอำนาจเก่า” ควบคุมเกมในภาคความมั่นคง-กองทัพ แลกกับการต่อกรกับพรรคก้าวไกล
มากกว่าที่เห็น
1. อนาคตของ “เศรษฐา”
แม้ “เศรษฐา” จะได้รับการสนับสนุนจาก “ทักษิณ” แต่บทบาทในระยะยาวจะเป็นอย่างไร? ยังมีคำถามที่ต้องจับตา
2. ความสัมพันธ์ “เพื่อไทย-ทหาร”
ดีลลับ “คืนบ้านคืนเมือง” จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ทหาร” อย่างไร?
3. อนาคตการเมืองไทย
เกม “ดึงดุล” ของขั้วอำนาจเก่า จะนำไปสู่ทิศทางไหน? การเมืองไทยจะเดินหน้าไปอย่างไร?บทวิเคราะห์นี้ นำเสนอภาพรวมของการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ยังมีประเด็นน่าสนใจอีกมากมายที่รอการติดตาม การเมืองไทยยังคงเต็มไปด้วยสีสัน และยังมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นอยู่